การขึ้นครองราชย์ ของ เอเธล์บาลด์ กษัตริย์แห่งเวสเซ็กซ์

ไม่ว่าสถานการณ์ในช่วงระหว่างที่เอเธลวูล์ฟกลับมาในปีค.ศ.856 จนถึงการสวรรคตของพระองค์ในปีค.ศ.858 จะเป็นเช่นไร หลังการสวรรคตของเอเธลวูล์ฟ เอเธลบาลด์ขึ้นเป็นกษัตริย์เพียงพระองค์เดียวของชาวเวสเซ็กซ์ และพระอนุชาของพระองค์ยังคงเป็นกษัตริย์แห่งเคนท์

เอเธลบาลด์ทำให้ตัวพระองค์เองไม่เป็นที่โปรดปรานของศาสนาเป็นอย่างมากอย่างโง่เขลาด้วยการอภิเษกสมรสที่ฉาวโฉ่กับพระมารดาเลี้ยงวัยสิบหก จูดิธแห่งฝรั่งเศส ความสัมพันธ์ถูกมองว่าเป็นการร่วมประเวณีของญาติที่มีสายโลหิตใกล้ชิดกันและฝ่าฝืนกฎหมายของศาสนา และถูกประณามอย่างรุนแรงโดยแอสเซอร์ในพระราชประวัติของพระเจ้าอัลเฟรดมหาราช ของเขา

อนุสรณ์สถานในเชอร์บอร์นแอบบีย์

'ครั้นเมื่อพระเจ้าเอเธลวูล์ฟสวรรคต เอเธลบาลด์ โอรสของพระองค์ ฝ่าฝืนข้อห้ามของพระเจ้าและเกียรติของชาวคริสต์ และยังขัดแย้งกับธรรมเนียมของเหล่าคนนอกรีตทั้งหลาย รับช่วงต่อเตียงอภิเษกสมรสของพระราชบิดาและอภิเษกสมรสกับจูดิธ ธิดาของชาร์ล กษัตริย์ของชาวแฟรงก์ ก่อเกิดความไม่เห็นด้วยครั้งใหญ่จากทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้'

แม้จะมีเรื่องฉาวโฉ่กับพระมารดาเลี้ยง แต่เอเธลบาลด์ก็เป็นกษัตริย์ที่ได้รับความนิยม พระองค์สวรรคตที่เชอร์บอร์นในดอร์เซ็ตในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ.860 พระชนมพรรษาราว 35 พรรษา หลังครองราชย์ได้สี่ปี พระองค์ถูกฝังที่เชอร์บอร์นแอบบีย์ หลุมฝังพระศพของพระองค์และของพระอนุชา เอเธลเบิร์ทแห่งเวสเซ็กซ์ อยู่ในนอร์ธไคร์ไอส์เอลของแอบบีย์

พระองค์ดูเหมือนจะเป็นที่อาลัยอย่างมากของประชาชน แม้บิชอปแอสเซอร์จะบรรยายถึงพระองค์ไว้ว่า "หัวแข็งและเผด็จการ" การถูกจดจำว่านำมาซึ่งการติเตียนของศาสนาจักรจากการอภิเษกสมรสที่ขัดต่อหลักศาสนาทำให้แอสเซอร์มีความคิดเห็นที่เป็นอคติกับกษัตริย์พระองค์นี้